บริษัท แพรนด้า จิวเวลรี่ จำกัด (มหาชน) หรือ “PRANDA” ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2516 และได้นำหุ้นเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยในปี 2533 ปัจจุบันบริษัทฯ มีทุนจดทะเบียน 634 ล้านบาท มีสินทรัพย์รวม 4,000 ล้านบาท บริษัทฯ ดำเนินธุรกิจเป็นผู้ผลิตและจัดจำหน่ายเครื่องประดับแท้เป็นหลัก ปัจจุบันเป็นผู้นำด้านการส่งออกเครื่องประดับอัญมณีของไทย ยุโรป และเอเชีย บริษัทฯ ได้กำหนดวิสัยทัศน์ว่า “เราเป็นพันธมิตรธุรกิจด้านเครื่องประดับชั้นนำของโลกที่ร่วมสร้างความเจริญเติบ โตและความสำเร็จให้กับคู่ค้าอันทรงคุณค่าของเรา” โดยมีโครงสร้างธุรกิจอย่างสมดุลสอดคล้องกับวิสัยทัศน์นี้ แบ่งเป็น 3 ด้าน คือ ด้านการผลิต ด้านการจัดจำหน่าย และด้านการค้าปลีก
ตลอดระยะเวลากว่า 40 ปี ที่กลุ่มบริษัทแพรนด้าดำเนินธุรกิจ ทางบริษัทฯ ได้รับการยอมรับจากลูกค้านานาชาติและคู่ค้าในวงการเครื่องประดับอัญมณี ด้วยจุดแข็งที่เป็นเอกลักษณ์ คือ
กลุ่มบริษัทแพรนด้ามีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ที่ เลขที่ 28 ซอยบางนา-ตราด 28 ถ. บางนา-ตราด กม. 2.3 แขวงบางนาใต้ เขตบางนา กรุงเทพฯ 10260 มีโรงงานในประเทศไทย (กรุงเทพฯ และนครราชสีมา) เวียดนาม และอินโดนีเซีย ซึ่งรวมแล้วมีกำลังการผลิตกว่า 4 ล้านชิ้นต่อปี
กลุ่มบริษัทแพรนด้าแบ่งโครงสร้างธุรกิจออกเป็น 3 หน่วยธุรกิจ ดังต่อไปนี้
การแกว่งตัวของค่าเงินเหรียญสหรัฐซึ่งเป็นสกุลเงินหลัก บริษัทฯ ได้ทำธุรกรรมสัญญาซื้อขายเงินตราล่วงหน้า (Forward Contract) แบบเงินสกุลเดียวกัน (Natural Hedge) และการทำธุรกรรมวิธีส่งผ่าน (passthru) ราคาทองคำให้กับลูกค้าโดยตรง
บริษัทฯ ได้แปลงสภาพเป็นบริษัทจดทะเบียน ในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยเมื่อวันที่ 12 มิถุนายน 2533 มีการจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นเป็นจำนวน 28 ครั้ง ในปี พ.ศ. 2533-2537 และ2544-2559 ตามลำดับ ในส่วนของหลักการพิจารณาจ่ายปันผลในแต่ละปี ไม่เกินร้อยละ 60 ของกำไรสุทธิประจำปีจากงบการเงินเฉพาะกิจการ โดยคณะกรรมการบริษัท จะพิจารณาถึงกำไรจากการดำเนินงาน เงินทุนหมุนเวียน เงินลงทุนในสินทรัพย์ถาวร เงื่อนไขทางการเงิน และ การตั้งสำรองทุนตามที่กฎหมายกำหนด ทั้งในปัจจุบันและอนาคต
รัฐบาลได้ให้การสนับสนุนภาคธุรกิจเอกชนที่ประกอบกิจการอุตสาหกรรมการผลิตเครื่องประดับอัญมณี ทั้งทางตรง และทางอ้อม โดยทางตรง รัฐบาลได้ให้การสนับสนุนโดยผ่านสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน หรือ BOI แก่ผู้ประกอบการที่ลงทุนภายใต้เงื่อนไขของ BOI โดยผู้ประกอบการจะได้รับสิทธิประโยชน์จากภาครัฐหลายด้าน สำหรับบริษัทฯ ก็เป็นผู้ประกอบการรายหนึ่งที่ได้รับสิทธิประโยชน์จาก BOI อาทิ ได้รับยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลเป็นระยะเวลาแปดปีนับจากวันเริ่มมีรายได้จากการประกอบกิจการ บริษัทฯ ได้เริ่มใช้สิทธิตามบัตรส่งเสริมเลขที่ 1616 (2)/2553 ตั้งแต่วันที่ 4 มกราคม 2554 และจนถึงปัจจุบันทางบริษัทฯ ก็ยังคงได้รับสิทธิดังกล่าวอยู่
ส่วนทางอ้อม รัฐบาลได้ร่วมมือกับภาคเอกชน โดยการก่อตั้งสถาบันวิจัยและพัฒนาอัญมณีและเครื่องประดับแห่งชาติ (องค์การมหาชน) เพื่อค้นคว้าวิจัย ยกระดับและพัฒนาผู้ประกอบการในธุรกิจด้านต่างๆ นอกจากนี้ภาครัฐยังได้เปิดภาควิชาการออกแบบเครื่องประดับอัญมณีที่มหาวิทยาลัยศรีนครินทร์วิโรฒน์ ประสานมิตร เพื่อที่จะผลิตบุคลากรที่จบการศึกษาระดับปริญญาตรี ให้เพียงพอต่อความต้องการของภาคธุรกิจ รวมไปถึงการสนับสนุนให้ภาคเอกชนมีส่วนร่วมในการผลิตบุคลากรในสายอาชีพ ระดับ ปวช. ปวส. สาขาวิชาช่างเครื่องประดับอัญมณี ด้วยแนวทางการจัดการศึกษาระบบทวิภาคี เพื่อป้อนตลาดแรงงานภาคการผลิต ตลอดจนการส่งเสริมฝีมือแรงงานโดยการฝึกงานการผลิตเครื่องประดับ โดยกระทรวงแรงงาน ซึ่งทางบริษัทฯ ก็ได้ใช้แนวทางการตามกรอบนโยบายของรัฐบาล ในการผลิตบุคลากร ทั้งในระดับปริญญาตรี และ ปวช. เพื่อรองรับการเติบโตของธุรกิจในอนาคต
และเหนือสิ่งอื่นใดรัฐบาลมีนโยบายสร้างความเข็มแข็งให้กับประเทศไทยในการเป็นศูนย์กลางการค้าพลอยสีของโลก โดยการยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่มสำหรับวัตถุดิบโลหะและพลอย ซึ่งเป็นวัตถุดิบสำคัญของอุตสาหกรรมแขนงนี้
อุตสาหกรรมการผลิตเครื่องประดับอัญมณี ของ บริษัท แพรนด้า จิวเวลรี่ จำกัด(มหาชน) จะจัดอยู่ในประเภทอุตสาหกรรมเบา ซึ่งส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมในระดับที่น้อย เนื่องจากเป็นการใช้กำลังการผลิตจากแรงงานซึ่งเป็นช่างฝีมือเป็นหลักแต่อย่างไรก็ตามทางบริษัทฯ มุ่งหวังที่จะให้เกิดความยั่งยืนของกิจการ และป้องกันไม่ให้เกิดผลกระทบต่อชุมชน
ดังนั้นจึงได้ดำเนินการในด้านการจัดการสิ่งแวดล้อม 3 ด้าน ก็คือ
ท่านสามารถติดต่อสอบถามข่าวสารหรือข้อมูลของบริษัทฯ ได้โดยส่งจดหมายมาที่ สำนักงานเลขานุการบริษัท/ นักลงทุนสัมพันธ์ บริษัท แพรนด้า จิวเวลรี่ จำกัด (มหาชน) 28 ซอยบางนา-ตราด 28 บางนา กรุงเทพฯ 10260
และเพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกสำหรับผู้ใช้อินเทอร์เน็ตท่านสามารถติดต่อไ ด้ จากทางเว็บไซด์ www.pranda.co.th หมวดนักลงทุนสัมพันธ์ หรือติดต่อทาง E-Mail โดยตรงได้ที่ IR@pranda.co.th โทรศัทพ์ 0-2769- 9999 ต่อ 403,431,436